ถ้าไม่อยากให้ลูกป่วยบ่อย มาดูเคล็ดลับที่แม่ควรรู้หรือทำให้ได้เพื่อให้ลูกสุขภาพแข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่ายกันค่ะ
1. ล้างจมูก หยอดน้ำเกลือล้างจมูก สำหรับทารกที่มีน้ำมูก แต่เจ้าตัวเล็กยังไม่รู้จักการสั่งน้ำมูก หรือจะเอาน้ำมูกออกมาอย่างไร พ่อแม่ต้องช่วยโดยการใช้น้ำเกลือสำหรับล้างแผลใส่หลอดฉีดยาค่อย ๆ ฉีดล้างจมูกให้ลูก ลดความเหนียวของน้ำมูกและค่อย ๆ ใช้ลูกยางดูดน้ำมูกออกมา ซึ่งการล้างจมูกจะช่วยให้ลูกหายใจได้คล่องขึ้น ลดน้ำมูก ทำให้จมูกสะอาด ลดโอกาสเจ็บป่วยจากหวัดได้
2. เช็ดทำความสะอาดสายสะดือ การดูแลทำความสะอาดสะดือในช่วงที่สะดือยังไม่แห้ง แม่ต้องทำความสะอาดด้วยความระมัดระวัง และก็สะอาดทั่วถึงโดยใช้สำลีก้านชุบแอลกอฮอล์ เช็ดถูทำความสะอาดรอบ ๆ สะดือ และหลังทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าอ้อมต้องเช็ดสะดือให้แห้งทุกครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ถ้าหากสังเกตว่ามีหนอง รอยแดงควรไปหาคุณหมอเพราะอาจติดเชื้อได้
3. เคาะปอดระบายเสมหะ เช่นเดียวกับน้ำมูก เด็กทารกยังไม่รู้จักวิธีเอาเสมหะออกมาได้ด้วยตัวเอง วิธีที่ทำได้คือต้องรู้จักวิธีเคาะปอดเพื่อระบายเสมหะให้ลูก การเคาะปอด เป็นเทคนิคที่หากพ่อแม่ทำได้ จะช่วยให้ลูกระบายเสมหะออกมาได้ การเคาะปอดมีหลายท่า แต่โดยหลักการคือ การทำมือเป็นกะเปาะ แล้วใช้น้ำหนักให้พอเหมาะเคาะบริเวณเหนือกระดูกสะบักด้านหลัง หรือบริเวณหน้าอก เพื่อทำให้เกิดการสั่นสะเทือนไปยังปอด ช่วยระบายเสมหะที่ติดอยู่ตามเนื้อปอดและหลอดลมของลูกให้หลุดออกและระบายออกไปได้ง่ายขึ้นโดยการไอ หรือในเด็กเล็ก ๆ อาจใช้ลูกยางแดงดูดเสมหะดูดเสมหะออกมาอีกที
4. ให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด อยากให้ลูกแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยบ่อย ควรเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด เพราะนมแม่มีสารอาหารกว่า 200 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย พัฒนาการต่าง ๆ และมีภูมิต้านทานในการต่อต้านเชื้อโรค ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ โดยเฉพาะหัวน้ำนม หรือ โคลอสตรุม(colostrums) ซึ่งเป็นนมแม่ที่ออกมาในช่วงเวลา 2436 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เป็นน้ำนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำหน้าที่เสริมสร้างและกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมากที่สุด
5. เช็ดเหงือก เช็ดลิ้น อย่าคิดว่าเด็กทารกที่ยังไม่มีฟันไม่ต้องทำความสะอาดช่องปาก จริง ๆ แล้วควรเริ่มทำความสะอาดช่องปาก เช็ดเหงือก และลิ้นลูกตั้งแต่แรกเกิด โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกสะอาด เช็ดเบา ๆ ที่เหงือกและลิ้นวันละครั้ง เพื่อลดโอกาสเกิดเชื้อรา ฝ้าขาวที่เหงือกที่ลิ้น โดยเฉพาะเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ยิ่งมีโอกาสเกิดเชื้อราได้มาก
6. นวดไล่ลม จับเรอ ทุกครั้งหลังให้ลูกกินนมแล้ว แม่ควรต้องจับลูกเรอเพื่อไล่ลมให้ลูก เพื่อช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายตัว ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุให้ลูกร้องงอแง ไม่สบายท้องได้ ตัวอย่างท่าไล่ลมที่นิยมคือ อุ้มลูกหันหน้าเข้าหาตัว วางศีรษะลูกบนบ่าหันหน้าไปด้านใดด้านหนึ่ง ใช้มือข้างที่ถนัดประคองต้นคอลูก ส่วนมืออีกข้างประคองก้นลูกไว้ การอุ้มลูกท่านี้ ไหล่ของคุณแม่จะช่วยนวดลิ้นปี่ของลูกเพื่อทำให้ลูกเรอ ไล่ลมในท้องออกมาได้
7. นวดท่อน้ำตาทารก ในเด็กทารกจะมีน้ำตาไหลมาก ตาแฉะ โดยที่ไม่ได้ร้องไห้ อาจเกิดจากสาเหตุลิ้นเปิดปิดในท่อน้ำตาไม่เปิด หรือท่อน้ำตาอุดตัน ถ้าเป็นมากและเรื้อรังจะมีอาการระคายเคือง จนทำให้เกิดการอักเสบจนกลายเป็นฝีหนองได้ ซึ่งการดูแลเบื้องต้นคุณหมอมักแนะนำให้คุณแม่นวดท่อน้ำตาลูกดูก่อน ซึ่งส่วนใหญ่อาการก็จะหายไปได้ โดยการนวดท่อน้ำตา คือนวดบริเวณหัวตาซึ่งเป็นตำแหน่งของท่อน้ำตาที่อุดตันก่อน เพื่อเป็นการเพิ่มความดันภายในท่อน้ำตาซึ่งจะช่วยดันให้แผ่นพังผืดบาง ๆ ที่ขวางลิ้นเปิดปิดในท่อน้ำตาเปิดออก